ยิ่งให้...ยิ่งได้: เคล็ดลับการถวายปัจจัยด้วยคาถาที่ถูกต้อง ยกระดับทานบารมี หนุนนำโภคทรัพย์

การทำบุญถวายปัจจัยเพื่อค้ำจุนพระพุทธศาสนา ถือเป็นทานบารมีอันงดงามที่พวกเราชาวพุทธปฏิบัติสืบต่อกันมา จิตที่เป็นกุศลในขณะที่สละทรัพย์ออกไปนั้นย่อมเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ แต่เคยสังเกตไหมครับว่า บ่อยครั้งเมื่อเราจะถวายปัจจัย เรามักจะอธิษฐานในใจว่า "ขอให้ร่ำรวย ขอให้เงินทองไหลมาเทมา" ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดครับ เพราะความปรารถนาในโภคทรัพย์เพื่อการดำรงชีวิตที่ผาสุกนั้นเป็นเรื่องปกติของปุถุชน

ทว่าในวันนี้ "เด็กวัดแชนแนล" อยากจะขอเชิญชวนญาติธรรมทุกท่าน มายกระดับ "เจตนา" ในการถวายทานของเราให้สูงส่งยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยบทคาถาถวายปัจจัยที่ถูกต้อง ซึ่งไม่เพียงแต่จะหนุนนำทรัพย์สมบัติทางโลก แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้าง "อริยทรัพย์" อันเป็นทรัพย์ภายในที่ประเสริฐยิ่งกว่าครับ

 

หัวใจของการถวายทาน:
ยิ่ง "สละออก" ยิ่ง "เติมเต็ม"

ก่อนจะกล่าวถึงบทคาถา เราต้องเข้าใจก่อนว่าผลของทานจะยิ่งใหญ่เพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับ "เจตนา" ของผู้ให้เป็นสำคัญ การให้โดยหวังผลตอบแทนโดยตรงนั้นย่อมได้บุญ แต่เป็นบุญในระดับโลกียะ แต่การให้ด้วยจิตที่ต้องการ "สละออก" ซึ่งความโลภ ความตระหนี่ถี่เหนียวในใจ เพื่อขัดเกลากิเลสของตน และเพื่อสืบทอดอายุพระศาสนาโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนเฉพาะหน้า... การให้เช่นนี้กลับมีอานุภาพมหาศาล และผลแห่งโภคทรัพย์นั้นจะย้อนกลับมาเองโดยที่เราไม่ต้องร้องขอเลยครับ

 

คาถาถวายปัจจัย:
คำประกาศเจตนาอันสูงสุด

เมื่อเตรียมปัจจัยที่หามาได้โดยสุจริตพร้อมแล้ว ขณะที่จะถวาย ไม่ว่าจะหย่อนลงในตู้บริจาคหรือประเคนแด่พระภิกษุสงฆ์ ให้ตั้งจิตน้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย แล้วกล่าวคำประกาศเจตนาอันทรงพลังนี้ครับ

สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ

 

หลายท่านอาจสวดจนคุ้นเคย แต่ยังไม่ทราบความหมายอันลึกซึ้ง วันนี้เรามาเจาะลึกกันทีละท่อนครับ

  • สุทินนัง วะตะ เม ทานัง

    • คำแปล: "ทานที่ข้าพเจ้าถวายดีแล้วหนอ"

    • ความหมาย: เป็นการยืนยันกับจิตตนเองว่า ทานครั้งนี้ เราให้ด้วยใจที่บริสุทธิ์ ปัจจัยที่นำมาถวายก็ได้มาด้วยความสุจริต ไม่ได้เบียดเบียนใครมา

  • อาสะวักขะยาวะหัง

    • คำแปล: "เพื่อเป็นเครื่องกำจัดอาสวะกิเลส"

    • ความหมาย: นี่คือหัวใจที่สำคัญที่สุดครับ! "อาสวะ" คือกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในใจอย่างลึกซึ้ง เช่น ความโลภ ความเห็นแก่ตัว การกล่าวประโยคนี้คือการตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ว่า "การสละทรัพย์ครั้งนี้ ข้าพเจ้าทำเพื่อขัดเกลาและทำลายความโลภในใจของข้าพเจ้า"

  • นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ

    • คำแปล: "ขอให้เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานเทอญ"

    • ความหมาย: เป็นการอุทิศบุญกุศลทั้งหมดจากการให้ครั้งนี้ เพื่อเป้าหมายอันสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือการดับสิ้นเชื้อแห่งทุกข์โดยสิ้นเชิง

 

เมื่อญาติธรรมตั้งจิตและกล่าวคาถาด้วยความเข้าใจเช่นนี้ ทานนั้นจะกลายเป็น "มหาทาน" ที่มีอานิสงส์ไพบูลย์ และเมื่อบุญบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว "ผลพลอยได้" ที่เรียกว่าความคล่องตัวทางการเงิน ความมั่งคั่ง และความไม่อัตคัดขัดสน ก็จะบังเกิดขึ้นกับชีวิตของท่านเองโดยอัตโนมัติ เป็นผลจากจิตที่สละออกซึ่งความโลภนั่นเองครับ

ดังนั้น ครั้งต่อไปที่ท่านจะทำบุญถวายปัจจัย ลองเปลี่ยนจากการ "ร้องขอ" มาเป็นการ "ประกาศเจตนาเพื่อการสละออก" ด้วยคาถาบทนี้ดูนะครับ แล้วท่านจะพบกับความอิ่มเอมใจและผลแห่งบุญที่แตกต่างอย่างแน่นอน

ขออนุโมทนาในทานบารมีของญาติธรรมทุกท่านครับ


 

ฝากใจศรัทธา คาถาเงินล้าน [พระคาถาเงินล้าน] เรียกโชค เสริมลาภ ฟังแล้วมีแรงใจ
คาถามหาจักรพรรดิ ๙ จบ เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี แผ่เมตตาให้แก่เจ้ากรรมนายเวร

วัตถุเสริมดวงชะตา