เปิดคัมภีร์สายบุญ: คู่มือถวายเทียนพรรษา-ผ้าอาบน้ำฝน 2568 ฉบับสมบูรณ์

เมื่อสายฝนเริ่มโปรยปราย เป็นสัญญาณแห่งการเข้าสู่พรรษากาล ช่วงเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จะอยู่จำพรรษาเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเข้มข้น และเป็นโอกาสอันดีเลิศที่พวกเราชาวพุทธจะได้สั่งสมมหาบารมีครั้งสำคัญ นั่นคือ "การถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน"

วันนี้ Dekwat Channel (เด็กวัดแชนแนล) จะขอพาญาติธรรมทุกท่าน มาเจาะลึกถึงประเพณีอันงดงามนี้ ตั้งแต่วันที่ควรไปถวายในปี 2568, คำกล่าวที่ถูกต้อง, ไปจนถึงอานิสงส์ผลบุญอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยนำทางชีวิตให้สว่างไสวรุ่งเรืองครับ

เตรียมตัวให้พร้อม: ถวายเทียนพรรษา ปี 2568
ในวันใด ?

หัวใจสำคัญของประเพณีนี้เริ่มต้นจาก "วันเข้าพรรษา" ซึ่งในปีพุทธศักราช 2568 จะตรงกับ วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2568 (หรือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8)

ที่มาและความสำคัญของวันเข้าพรรษา

ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธองค์ทรงบัญญัติให้พระภิกษุสงฆ์หยุดจาริกแสวงบุญและจำพรรษาอยู่ ณ วัดใดวัดหนึ่งเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการเหยียบย่ำพืชผลของชาวบ้านที่กำลังงอกงาม และเพื่อเป็นช่วงเวลาแห่งการบำเพ็ญสมณธรรมอย่างเต็มที่ การปฏิบัติศาสนกิจในยามค่ำคืนจึงจำเป็นต้องอาศัยแสงสว่าง

ด้วยเหตุนี้ พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาจึงนำแสงประทีปและเทียนไปถวายแด่พระสงฆ์ เพื่อให้ท่านได้ใช้ศึกษาพระธรรมและสวดมนต์ได้โดยสะดวก จึงเกิดเป็นประเพณี "การถวายเทียนพรรษา" ที่สืบทอดมาจนปัจจุบัน

หลายท่านอาจสงสัยว่า ในเมื่อปัจจุบันมีไฟฟ้าแล้ว ทำไมเรายังควรถวายเทียนอยู่? คำตอบคือ การถวายเทียนนั้นเป็นมากกว่าแค่การให้แสงสว่างทางกาย แต่ยังเปี่ยมด้วยความหมายเชิงธรรมะ คือ การถวายแสงสว่างแห่งปัญญาเป็นพุทธบูชา อีกทั้งในหลายวัดที่ยังห่างไกลหรือขาดแคลน เทียนก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น และที่สำคัญที่สุดคือการสืบสานประเพณีอันงดงามของไทยให้คงอยู่สืบไปครับ

คำถวายเทียนพรรษา: 
ตั้งจิตอธิษฐานกล่าววาจาศักดิ์สิทธิ์

เพื่อให้การถวายบังเกิดอานิสงส์สูงสุด ควรตั้งจิตให้เป็นสมาธิ
ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย แล้วกล่าวคำถวายเทียนพรรษาดังนี้ครับ

ยัคเฆ ภันเต สังโฆ ปะฏิชานาตุ มะยัง ภันเต เอตัง ปะทีปะยุคัง สะปะริวารัง เตมาสัง พุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ อิมัสมิง อุโปสะถาคาเร นิยยาเทมะ สาธุ โน ภันเต อะยัง เตมาสัง พุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ ปะทีปะยุคัสสะ ทานัสสะ อานิสังโส อัมหากัญเจวะ มาตาปิตุอาทีนัญจะ ปิยะชะนานัง ทีฆะรัตตัง
หิตายะ สุขายะ สังวัตตะตุ ฯ

คำแปล:

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ
ขอพระสงฆ์จงรับทราบ
ข้าพเจ้าทั้งหลายขอมอบถวายเทียนคู่นี้
พร้อมกับของบริวารไว้ ณ พระอุโบสถนี้
เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดพรรษา
ขออานิสงส์แห่งการถวายเทียนคู่นี้
เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดพรรษาของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย
แก่ปิยชนทั้งหลาย มีมารดาบิดาเป็นต้นด้วย
ตลอดกาลนานเทอญ ฯ

อานิสงส์แห่งแสงเทียน:
ผลบุญที่ส่องนำทางชีวิต

การถวายเทียนพรรษาด้วยจิตที่เลื่อมใส ย่อมก่อให้เกิดอานิสงส์อันไพบูลย์ ดังนี้ครับ

• บังเกิดปัญญาสว่างไสว: ดุจแสงเทียนที่ขจัดความมืดมิด ทำให้เป็นผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม เรียนรู้สิ่งใดก็เข้าใจได้โดยง่าย

• ชีวิตรุ่งโรจน์ไม่อับจน: มีชีวิตที่สว่างไสวเจริญรุ่งเรือง ทำกิจการงานใดก็ราบรื่นไร้อุปสรรค

• คลี่คลายปัญหาอุปสรรค: เมื่อประสบปัญหาใดๆ จะพบทางออกที่ดี เปรียบเสมือนมีแสงสว่างส่องนำทาง

• เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์: มีเสน่ห์เมตตา เป็นที่รักใคร่ของผู้คนรอบข้าง และเป็นที่โปรดปรานของเหล่าทวยเทพ

• มีบริวารและกัลยาณมิตรที่ดี: จะได้พบเจอแต่คนดีๆ ที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

• มีกายทิพย์อันสว่างไสว: เมื่อละจากโลกนี้ไป ย่อมบังเกิดในสุคติภูมิ มีรัศมีกายที่งดงามสว่างไสว

• เป็นปัจจัยแห่ง "ทิพยจักขุญาณ": ดังเรื่องราวของพระอนุรุทธะ ผู้เป็นเลิศทางด้านตาทิพย์ ก็ด้วยอานิสงส์ที่ท่านเคยถวายแสงประทีปมาในอดีตชาตินั่นเอง

ถวายผ้าอาบน้ำฝน:
ทานมัยอันงดงามคู่พรรษากาล

นอกจากการถวายเทียนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่นิยมถวายในช่วงก่อนเข้าพรรษาคือ "ผ้าอาบน้ำฝน" หรือ "ผ้าวัสสิกสาฏิกา" ซึ่งเป็นผ้าที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุใช้สำหรับผลัดเปลี่ยนเวลาอาบน้ำในช่วงฤดูฝน

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "ให้ผ้าชื่อว่าให้วรรณะ" ดังนั้น ผู้ที่ถวายผ้าอาบน้ำฝนย่อมได้รับอานิสงส์ให้เป็นผู้มีผิวพรรณวรรณะผ่องใส งดงามทั้งในชาตินี้และชาติหน้า

คำถวายผ้าอาบน้ำฝน:

อิมานิ มะยัง ภันเต วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ

คำแปล:

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย
ขอน้อมถวายผ้าอาบน้ำฝนกับบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์
ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับผ้าอาบน้ำฝนกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้
เพื่อประโยชน์และความสุข
แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ ฯ

สุดท้ายนี้ ขอให้การสร้างมหากุศลด้วยการถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนในครั้งนี้ จงเป็นดั่งแสงประทีปที่ส่องนำทางชีวิตของญาติโยมทุกท่านให้พบแต่ความสว่างไสว เจริญรุ่งเรืองในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดไป

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

คาถามหาจักรพรรดิ ๙ จบ เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี แผ่เมตตาให้แก่เจ้ากรรมนายเวร